หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เล่นช่วยพัฒนาสมอง

                  พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดว่าการที่ลูกฉลาดคือสามารถอ่านออกเขียนได้เร็วกว่าเด็กคนอื่น จึงพยายามมุ่งเน้นให้ลูกหัดอ่านเขียน ซึ่งเป็นการปั่นทอนความสามารถในการเรียนรู้ของเด็ก ที่ต้องการการพัฒนาทักษะ การคิด การฟัง การสังเกต การใช้มือ ที่จะพัฒนาได้โดยผ่านการเล่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็ก
                  การเล่นจึงเป็นกระบวนการตามธรรมชาติของเด็ก ทีจะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่างๆควบคู่กันไป ในช่วงระยะ 0-5ปี เซลสมองของเด็กจะมีการพัฒนาไปถึง 80% ของผู้ใหญ่ และจะมีการเพิ่มเซลสมองจำนวนมาก หลังจากพ้นช่วงนี้ไปแล้วจะไม่มีการเพิ่มของเซลสมองอีก การเพิ่มหรือเติบโตของสมอง เกิดจากการได้รับสารอาหารที่เหมาะสม แต่การเล่นเป็นการให้ข้อมูลแก่สมองเพื่อจะกระตุ้นให้เซลสมองเกิดการเชื่อมโยงกัน แต่ถ้าเซลไม่ได้รับการกระตุ้นก็จะเสื่อมสลายไป
                ความสนุกสนานจากการเล่นจะเป็นโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น ถ้าพ่อแม่สังเกตจะพบว่า สิ่งใดที่เด็กเล่นแล้วมีความสุขสนุกสนาน เด็กก็จะเล่นสิ่งนั้นบ่อยๆ หรือนิทานที่เด็กฟังแล้วชอบ เด็กก็มักจะเล่าให้ฟังหลายๆรอบ จึงเปรียบเหมือนว่าสิ่งที่เด็กชอบเล่นหรือนิทานที่ฟังบ่อยๆ เป็นเหมือนการทบทวน การเรียนรู้ที่ได้จากการเล่นหรือนิทานที่ได้ฟัง
                ในทางตรงกันข้ามมีการศึกษาพบว่าความเครียดเป็นตัวขัดขวางการเรียนรู้ของเด็ก การที่เด็กต้องทำอะไรที่ไม่ชอบ เกิดความเครียดหรือคับข้องใจ จะทำให้ไม่เกิดการเรียนรู้จากสิ่งนั้น
                รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงทิพวรรณ หรรษคุณาชัยกล่าไว้ว่า "การเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่มีความเฉลียวฉลาดนั้น พ่อแม่ไม่ควรกดดันหรือคาดหวังกับลูกมากเกินไป แต่ควรดำเนินทุกกิจกรรมไปด้วยความรักและความสนุกสนาน เมื่อลูกได้สัมผัสถึงความอบอุ่นและปราถนาดี ลูกก็พร้อมจะเรียนรู้ไปกับเราในทุกนาที"

ข้อมูลจาก
http://www.rajanukul.go.th
OKNATION BLOG
http://www.manager.co.th