หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

จะอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้เมื่อไหร่

พ่อแม่ที่อยากอ่านหนังสือให้ลูกฟังอาจจะยังมีคำถามคาใจว่า แล้วเมื่อไรหรือลูกอายุเท่าไร ที่พ่อแม่จะอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้
            ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กบอกว่า เด็กสามารถรับรู้เสียงของมารดาได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และแนะนำให้อ่านหนังสือหรือร้องเพลง เพื่อเป็นการกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของเด็กตั้งแต่ในครรภ์
            หลังจากลูกคลอดออกมาแล้ว การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง พูดคุยกับลูก และร้องเพลงให้ลูกฟัง ถึงแม้ลูกจะยังไม่รับรู้หรือเข้าใจสิ่งที่ได้ยิน แต่การได้ยินเสียงของพ่อแม่จะช่วยกระตุ้นความสนใจ ในเสียงและจังหวะจากการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง พูดกับลูกและร้องเพลงให้ลูกฟัง ซึ่งจะช่วยพัฒนาการฟังและพัฒนาการทางภาษาและการเรียนรู้ของลูก และยังช่วยให้เกิดการเรียนรู้วิธีการที่จะจดจำได้โดยไม่ต้องเข้าใจความหมายที่แท้จริง
            และที่สำคัญจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูก เพราะสมองจะมีการพัฒนามากที่สุดในช่วงแรกเกิดถึง3ขวบ เสียงที่ลูกได้ยินจะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลสมองและความเชื่อมโยงระหว่างเซลสมอง
            การอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่แรกเกิด ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างลูกกับพ่อแม่ จะเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ใช่แค่พ่อแม่แม้แต่สมาชิกในครอบครัวทุกคนการอ่านหนังสือ พูดคุยกับเด็ก หรือร้องเพลงให้ฟัง จะช่วยสร้างความผูกพันได้เช่นกัน
          การอ่านหนังสือให้ลูกฟังยังจะช่วยสร้างนิสัยรักการอ่าน เพราะจะเป็นกิจกรรมแรกที่เด็กได้สัมผัส ความคุ้นเคยและความสนุกจากการที่พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกๆวันเป็นประจำ เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างนักอ่านที่ดี

            ยังมีประโยชน์และเหตุผลอีกมากมายที่ช่วยสนับสนุนว่า ทำไมพ่อแม่ควรจะอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่แรกเกิด แต่ขอไว้กล่าวถึงในบทความต่อไป  

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.earlymoments.com/promoting-literacy-and-a-love-of-reading/why-reading-to-children-is-important/
http://www.raisesmartkid.com/all-ages/1-articles/14-the-benefits-of-reading-to-your-child
http://www.rif.org/us/literacy-resources/articles/reading-aloud-to-your-child.htm
http://www2.ed.gov/parents/read/resources/readingtips/part_pg2.html#2
http://www.babycenter.com/0_reading-to-your-baby_368.bc
http://www.parents.com/baby/development/intellectual/age-by-age-guide-to-reading-to-your-baby/

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

จะสอนลูกอ่านหนังสือได้อย่างไร

เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า การสอนลูกให้อ่านหนังสือได้ คือหัวใจของความสำเร็จในการเรียนของลูกๆ โดยเฉพาะถ้าสามารถสอนให้ลูกของเราอ่านหนังสือได้ก่อนเข้าโรงเรียน ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและพัฒนาการของเด็กล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี้คือบันไดแรกและเป็นบันไดที่มั่นคงที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการเรียน เป็นการสร้างพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กได้อย่างดียิ่ง หรือเป็นถนนสู่การสร้างอัจฉริยะ
            แต่คำถามของพ่อแม่ก็คือ แล้วจะสอนลูกให้อ่านหนังสือได้ยังไง จากการที่ผู้เขียนได้ค้นหาข้อมูลมา สิ่งที่สำคัญคือ เด็กจะต้องรักในการอ่านหนังสือ
แล้วเด็กจะรักในการอ่านหนังสือได้อย่างไร ก็จะต้องทำให้เด็กคุ้นชินและสนุกสนานกับการอ่านหนังสือ เสมือนการอ่านหนังสือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเด็ก
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการอ่านแนะนำว่าการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง เป็นวิธีการที่ดีในการสอนลูกอ่านหนังสือ
คำถามของพ่อแม่ต่อมาก็คือ แล้วจะอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่ตอนไหน จะเริ่มอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้ตั้งแต่เป็นทารกเลยหรือไม่ หรือต้องรอลูกอายุเท่าไรถึงจะสอนอ่านหนังสือได้
หนังสืออะไรหรือแบบไหนที่จะใช้อ่านให้ลูกฟังได้
ที่ไหนจะเหมาะที่อ่านหนังสือให้ลูกฟัง
เมื่อรู้ว่าจะเริ่มอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้ตอนไหนแล้ว เลือกหนังสือที่จะอ่านให้ลูกฟังได้แล้ว และหาสถานที่ ที่เหมาะกับการอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้แล้ว คำถามสุดท้ายก็คือ
แล้วจะอ่านหนังสือให้ลูกฟังอย่างไรดี ที่จะทำให้ลูกชอบและสนุกไปกับการที่พ่อแม่อ่านหนังสือลูกฟัง
มีผู้เชี่ยวชาญมากมายได้แนะนำเทคนิคที่จะช่วยให้การอ่านหนังสือให้ลูกฟังประสบความสำเร็จ ซึ่งพ่อแม่ไม่ต้องทำตามเทคนิคทั้งหมดที่จะแนะนำในครั้งต่อไปก็ได้ สิ่งสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่บอก คือ พ่อแม่ต้องทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน อ่านหนังสือด้วยความรักที่มีให้แก่ลูก อ่านหนังสือให้ลูกฟังด้วยความสุขและสนุกสนาน ซึ่งลูกจะรับรู้และสัมผัสได้
นี่คือจุดเริ่มต้นที่ผู้เขียนเห็นว่า พ่อแม่น่าจะรับรู้และเตรียมตัว สำหรับการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง พ่อแม่บางท่านอาจจะเครียดหรือวิตกกังวลว่า ถ้าไม่มีเวลามากพอหรือไม่ถนัดที่จะอ่านหนังสือให้ลูกฟังแล้วจะทำยังไงดี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเน้นว่า หัวใจในการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง คือความรักและความตั้งใจ ซึ่งผู้เขียนจะคัดกรองเอาข้อมูลและเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำ มาบอกกล่าวในบทความต่อไป

 ข้อมูลอ้างอิง

http://www.rif.org/us/literacy-resources/articles/reading-aloud-to-your-child.htm
http://www.child2000.org/lit-tipsk.htm
http://dyslexia.yale.edu/PAR_10thingstohelpchild.html
http://goo.gl/XwzlqQ
http://www.taiwisdom.org/